มือใหม่หัดเช่ารถ: 7 สิ่งที่ต้องตรวจสอบก่อนรับรถ
อัพเดทล่าสุด: 2 ก.ย. 2025
51 ผู้เข้าชม

สำหรับมือใหม่ที่กำลังจะเช่ารถเป็นครั้งแรก ความตื่นเต้นอาจทำให้คุณมองข้ามจุดสำคัญบางอย่างไปได้ การตรวจสอบสภาพรถอย่างละเอียดก่อนรับรถถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นตามมาในภายหลัง บทความนี้จะสรุป 7 สิ่งที่คุณต้องตรวจสอบให้ดีก่อนขับรถออกจากบริษัท
1. เอกสารการเช่ารถและสัญญา
ตรวจสอบชื่อ-นามสกุล, ประเภทรถ, ระยะเวลาเช่า, และราคาให้ถูกต้องครบถ้วน นอกจากนี้ ควรอ่าน เงื่อนไขในสัญญา อย่างละเอียด เช่น ค่าประกัน, ข้อกำหนดระยะทาง, และนโยบายการคืนเงินมัดจำ หากมีข้อสงสัยใดๆ ให้สอบถามพนักงานทันที
2. สภาพภายนอกรถยนต์
สำรวจรอบคันเพื่อหา รอยขีดข่วน, รอยบุบ, หรือความเสียหายอื่นๆ ที่อาจมีอยู่แล้วตั้งแต่แรก อย่าลืมตรวจสอบบริเวณกันชน, ประตู, หลังคา, และกระจกหน้า-หลัง หากพบความผิดปกติใดๆ ให้ถ่ายรูปหรือวิดีโอเก็บไว้เป็นหลักฐาน และแจ้งพนักงานให้ลงบันทึกในเอกสารการเช่ารถให้เรียบร้อย
3. ยางรถยนต์และล้อ
สิ่งนี้สำคัญมากเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ ตรวจสอบสภาพยางทั้ง 4 เส้น รวมถึงยางอะไหล่ด้วย หากมีรอยฉีกขาดหรือดอกยางสึกมากเกินไป ควรแจ้งพนักงานเพื่อเปลี่ยนรถหรือเปลี่ยนยางทันที
4. ระบบไฟและสัญญาณต่างๆ
ทดสอบระบบไฟทั้งหมดของรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็น ไฟหน้า, ไฟท้าย, ไฟเบรก, และไฟเลี้ยว รวมถึงการเปิด-ปิดไฟฉุกเฉิน (ไฟผ่าหมาก) และตรวจสอบความดังของแตร เพื่อให้มั่นใจว่ารถพร้อมใช้งานบนท้องถนน
5. ระดับน้ำมันเชื้อเพลิง
ตรวจสอบว่า ระดับน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ในระดับที่กำหนด ในสัญญาหรือไม่ โดยปกติแล้วรถจะถูกส่งมอบด้วยน้ำมันเต็มถัง และคุณต้องเติมกลับคืนในระดับเดียวกันก่อนนำรถมาคืน หากน้ำมันไม่เต็มถังตั้งแต่แรก ควรแจ้งพนักงานทันที
6. อุปกรณ์ภายในรถ
ตรวจสอบการทำงานของ ระบบปรับอากาศ, เครื่องเสียง, และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น ที่ปัดน้ำฝนและกระจกข้าง รวมถึงอุปกรณ์ภายในรถยนต์ที่จำเป็นอย่างแม่แรงและสายพ่วงแบตเตอรี่ หากมีอุปกรณ์ใดไม่พร้อมใช้งาน ควรแจ้งพนักงาน
7. ถ่ายรูปและเก็บหลักฐาน
นี่คือขั้นตอนสำคัญที่สุด! ถ่ายรูปหรือวิดีโอ ทุกซอกทุกมุมของรถยนต์ รวมถึงร่องรอยความเสียหายที่พบตั้งแต่แรก เพื่อเป็นหลักฐานว่าคุณไม่ได้เป็นผู้ก่อให้เกิดความเสียหายเหล่านั้น การทำเช่นนี้จะช่วยให้คุณสบายใจและไม่มีปัญหาในวันคืนรถครับ
1. เอกสารการเช่ารถและสัญญา
ตรวจสอบชื่อ-นามสกุล, ประเภทรถ, ระยะเวลาเช่า, และราคาให้ถูกต้องครบถ้วน นอกจากนี้ ควรอ่าน เงื่อนไขในสัญญา อย่างละเอียด เช่น ค่าประกัน, ข้อกำหนดระยะทาง, และนโยบายการคืนเงินมัดจำ หากมีข้อสงสัยใดๆ ให้สอบถามพนักงานทันที
2. สภาพภายนอกรถยนต์
สำรวจรอบคันเพื่อหา รอยขีดข่วน, รอยบุบ, หรือความเสียหายอื่นๆ ที่อาจมีอยู่แล้วตั้งแต่แรก อย่าลืมตรวจสอบบริเวณกันชน, ประตู, หลังคา, และกระจกหน้า-หลัง หากพบความผิดปกติใดๆ ให้ถ่ายรูปหรือวิดีโอเก็บไว้เป็นหลักฐาน และแจ้งพนักงานให้ลงบันทึกในเอกสารการเช่ารถให้เรียบร้อย
3. ยางรถยนต์และล้อ
สิ่งนี้สำคัญมากเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ ตรวจสอบสภาพยางทั้ง 4 เส้น รวมถึงยางอะไหล่ด้วย หากมีรอยฉีกขาดหรือดอกยางสึกมากเกินไป ควรแจ้งพนักงานเพื่อเปลี่ยนรถหรือเปลี่ยนยางทันที
4. ระบบไฟและสัญญาณต่างๆ
ทดสอบระบบไฟทั้งหมดของรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็น ไฟหน้า, ไฟท้าย, ไฟเบรก, และไฟเลี้ยว รวมถึงการเปิด-ปิดไฟฉุกเฉิน (ไฟผ่าหมาก) และตรวจสอบความดังของแตร เพื่อให้มั่นใจว่ารถพร้อมใช้งานบนท้องถนน
5. ระดับน้ำมันเชื้อเพลิง
ตรวจสอบว่า ระดับน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ในระดับที่กำหนด ในสัญญาหรือไม่ โดยปกติแล้วรถจะถูกส่งมอบด้วยน้ำมันเต็มถัง และคุณต้องเติมกลับคืนในระดับเดียวกันก่อนนำรถมาคืน หากน้ำมันไม่เต็มถังตั้งแต่แรก ควรแจ้งพนักงานทันที
6. อุปกรณ์ภายในรถ
ตรวจสอบการทำงานของ ระบบปรับอากาศ, เครื่องเสียง, และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น ที่ปัดน้ำฝนและกระจกข้าง รวมถึงอุปกรณ์ภายในรถยนต์ที่จำเป็นอย่างแม่แรงและสายพ่วงแบตเตอรี่ หากมีอุปกรณ์ใดไม่พร้อมใช้งาน ควรแจ้งพนักงาน
7. ถ่ายรูปและเก็บหลักฐาน
นี่คือขั้นตอนสำคัญที่สุด! ถ่ายรูปหรือวิดีโอ ทุกซอกทุกมุมของรถยนต์ รวมถึงร่องรอยความเสียหายที่พบตั้งแต่แรก เพื่อเป็นหลักฐานว่าคุณไม่ได้เป็นผู้ก่อให้เกิดความเสียหายเหล่านั้น การทำเช่นนี้จะช่วยให้คุณสบายใจและไม่มีปัญหาในวันคืนรถครับ
บทความที่เกี่ยวข้อง
การเช่ารถ 7 ที่นั่งอย่าง Toyota Fortuner และ Isuzu MU-X คือตัวเลือกหลักสำหรับทริปกลุ่มใหญ่ที่ต้องการความอุ่นใจในการขับขึ้นดอยสูงในเชียงใหม่
หลายครั้งที่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเชียงใหม่ 5-6 คน มักจะลังเลว่าจะเช่ารถ 5 ที่นั่งขนาดใหญ่ดี หรือยอมจ่ายเพิ่มเพื่อเช่ารถ 7 ที่นั่ง
เทศกาลลอยกระทง (ยี่เป็ง) แม้จะสวยงามด้วยแสงไฟจากโคมลอยและพลุ แต่ก็เป็นช่วงเวลาที่ความเสี่ยงที่ต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น


